สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ นู๋JUB จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่วัดทอง (Golden Pavilion) หรือ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดที่เก่าแก่ในเมืองเกียวโต ใครที่มาเที่ยวที่เกียวโตแล้วไม่ได้มาที่วัดคินคะคุจิ นู๋JUB ถือว่ามาไม่ถึงเกียวโต ตามไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ วัดคินคะคุจิสร้างขึ้นปี 1397 เคยได้รับความเสียหายจากสงครามหลายครั้ง และในปี 1950 ได้ถูกพระรูปหนึ่งรอบวางเพลิง หลังเหตุการณ์นี้ทำให้วัดได้รับการปรับปรุงและบูรณะอย่างต่อเนื่องมีการหุ้มทองทั้งหลัง วัดคินคะคุจิยังได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี1994 ศาลาทองวัดคินคะคุจิ มี 3 ชั้น และในแต่ละชั้นก็ใช้การออกแบบที่แตกต่างกัน ดังนี้ ชั้นที่ 1 :โฮซุยอิน (Hossui-in) (法水院) เป็นสไตล์ชินเดน-ซูคูรอแบบญี่ปุ่น มีระเบียงไม้ร้อมลอบ ส่วนนี้ใช้เป็นเป็นส่วนสำหรับรับแขกชั้นที่ 2 : โชฮอนโด (Cho’on-do) (潮音洞) เป็นสไตล์แบบบ้านซามูไร ภายในถูกตกแต่งด้วยภาพวาดของ คาโน่ มาซาโนบุ ใช้เป็นที่ประชุมชั้นที่ 3 : คูเคียวโช (Kukkyo-cho) (究竟頂) &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%b0%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%88%e0%b8%b4-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%95/">Continued</a>

ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) ที่คนไทยทั้งหลายชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต (Shinto) นั่งเอง ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีกนะคะ คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว นอกจากจะมีไฮไลท์อยู่ที่เสาประตูสีแดงแล้วนั้นตัวอาคารศาลเจ้าเองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ที่ล้างมือด้านหน้าศาลเจ้า ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องล้างมือ บ้วนปาก ก่อนเข้าศาลเจ้า ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 711 โดยแต่เดิมตัวศาลเจ้านั้นสร้างขึ้นบริเวณยอดเขาอินาริยามะ (Inariyama) และในปี ค.ศ. 816 ได้ทำการย้ายลงมาอยู่บริเวณเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งในปัจจุบัน โดยศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์จากองค์พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน หลังจากนั้นจึงมีการสร้างอาคารสำคัญหลายแห่งเพิ่มเติมเรื่อยมา “ศาลเจ้าอินาริ”คือศาลเจ้าที่ “เทพอินาริ”ซึ่งเป็นเทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหารของญี่ปุ่นสถิตอยู่ ว่ากันว่าจะได้มีอํานาจ ตั้งแต่”Gokokuhoujou”(พืชพันธุ์งอกงาม) “Shoubaihanjou” (ค้าขายรุ่งเรือง) “Ansan”(คลอดบุตรปลอดภัย) “Manbyouheiyu”(โรคภัยหายป่วย) ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ และ “Goukakukigan”(สอบผ่าน) เรียกได้ว่าเป็นมิตรของพวกเราชาวบ้านคนธรรมดาเลยล่ะ รูปปั้นสุนัขจิ้งจอก ที่หน้าศาลเจ้า มีความเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้า ร้านขายเครื่องรางในศาลเจ้า คนญี่ปุ่นทั่วประเทศกว่า2ล้าน7แสนคนไปที่ศาลเจ้านี้ เพื่อขอพรในวันปีใหม่เป็นศาลเจ้าที่มีความเป็นมาเก่าแก่ยาวนาน ที่ไม่ใช่แค่ในคันไซแต่เป็นคนญี่ปุ่นทั่วประเทศให้ความเคารพนับถือ เส้นทางเดินของศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ จะเดินตามทางเสาโทริอิสีแดง &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9f%e0%b8%b9%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b4-%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5/">Continued</a>

ตามนู๋JUB ไปดูเจ้ากวางน้อย และกราบไหว้หลวงพ่อไดบุทสึ อันศักดิ์สิทธิ์กันที่ วัดโทไดจิ (Todaiji) หรือที่คนทั่วไปมักจะเรียกขานกันว่า วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงความโด่งดังระดับประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ อายุกว่า 1,200 ปี และยังได้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมจากองค์กร Unesco อีกด้วย บริเวณทางเข้าวัดโทไดจิ จะเจอเจ้ากวางน้อยใหญ่ที่เดินควักไขว่ไปมา สามารถให้อาหารกวางเหล่านั้นด้วยขนมแซมเบ้ที่ทำมาสำหรับกวางโดยเฉพาะ ราคาก็จะอยู่ประมาณห่อละ &nbsp;150 เยน&nbsp; บรรยากาศรอบวัดมีต้นใบไม้เปลี่ยนสีตามทางเดินต่างๆ ยิ่งถ้ามาเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะได้ชมบรรยากาศที่สวยงามมากๆเลยค่ะ จุดล้างมือทำความสะอาดก่อนเข้าเยี่ยมชมวัดโทไดจิ&nbsp;(Todaiji) เพื่อเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อโตหรือ ไดบุทสึ (Daibutsu) ที่ประดิษฐานด้านในอาคาร พระพุทธรูปหลวงพ่อโต (Daibutsu) เป็นพระพุทธรูปทองแดงความสูง 15 เมตร หนักถึง 500 ตันถือว่าเป็นพระพุทธรูปหลวงพ่อโตขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นในสมัยเทมเปียว ตอนนั้นมีผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติและโรคระบาดจำนวนมาก ด้วยความคิดของจักรพรรดิโชมุเพื่อต้องการให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปัดเป่าสิ่งร้ายๆ และโรคภัยออกไป นอกจากนี้ยังมียากูชิ เนียวไร (Yakushi Nyorai) พระแห่งการรักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งมีความเชื่อว่าหากเอาอวัยวะในร่างกายส่วนที่เจ็บป่วยไปแตะกับองค์พระก็จะหายป่วยในเร็ววัน จุดไฮไลท์ที่เป็นที่นิยมอย่างมากก็คือ เสาร์ไม้ยักษ์ ซึ่งฐานขนาดรอบเสาร์นี้มีขนาดเท่ากันรูจมูกของหลวงพ่อโต และด้านล่างของเสาร์จะเป็นช่องขนาดไม่ใหญ่มาก มีความเชื่อว่าหากใครสามารถรอดผ่านช่องนี้ไปได้ก็จะสามารถตรัสรู้ได้ในชาติหน้า&nbsp; สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : เที่ยววัดโทไดจิ : &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%97%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b8%88%e0%b8%b4-%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2/">Continued</a>

วันนี้เรามีรีวิวเที่ยววัดนาริตะซัน (Naritasan Shinshoji Temple) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ใกล้ๆ กับสนามบินนาริตะ เหมาะสำหรับคนที่อยากแวะเที่ยวก่อนเดินทางเข้าเมือง หรือจะแวะไว้พระขอพรก่อนขึ้นเครื่องบินกลับก็ได้ค่ะ โดยสามารถฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่สนามบินแล้วนั่งรถไฟมาเที่ยวได้เลยค่ะ วัดนาริตะซัน ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple / 成田山新勝寺) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ 940 เป็นวัดขนาดใหญ่และมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันปีซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ (Narita) ของจังหวัดชิบะ (Chiba) โดยอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนาริตะ (Narita Airport) วัดนาริตะซันเป็นวัดพุทธนิกายชินงอน (Shingon) ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในแถบภูมิภาคคันโตและเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ตามธรรมเนียมก่อนเข้าวัดบ้างท่านอาจจะยังไม่รู้วิธีการที่ถูกต้องในการชำระล้างเพื่อความบริสุทธิ์ก่อนเข้าวัดขั้นตอนมีอยู่ว่า1.ตักน้ำใส่กระบวยที่วางอยู่2.ราดมือซ้าย3.ราดมือขวา4.บ้วนปาก5.น้ำที่เหลือใช้มือขวาตั้งกระบวยขึ้นเพื่อให้น้ำที่เหลือไหลลงมาจนหมด เป็นการล้างด้ามจับกระบวยไปในตัว โดยต้องทำทุกขั้นตอนใน1กระบวย และวิธีการนี้เหมือนๆกันทุกวัดค่ะ หลังจากผ่านประตูใหญ่ด้านหน้าวัดเข้ามาก็จะมีทางขึ้นวัดค่ะ ตรงทางประตูเข้าวัดก็จะมีโคมแดงใหญ่เด่นเป็นสง่า และด้านใต้โคมก็ยังสลักเป็นรูปอย่างสวยงามอีกด้วย ด้านข้างของประตูจะมีโอนิ (ยักษ์ที่เฝ้าประตูวิหาร) คอยดูแลรักษานาริตะซันและเทพเจ้าต่างๆที่สิงสถิตอยู่ที่นี่อีกด้วยคะ อีกพิธีกรรมนึงก็คือการปัดควันธูปเข้าหาตัวด้วยความเชื่อกันว่ากันว่าปัดควันธูปไปที่ได้ของร่างกายก็จะทำส่วนนั้นที่เคยเจ็บป่วย หายไปหรือถ้าปัดควันเข้าศรีษะก็จะทำให้หัวดีฉลาดอีกด้วยคะ หลังจากนั้นเราก็เข้าไปในอรามหลวงกันได้เลยคะ วัดนาริตะซันเป็นวัดประจำเมืองนาริตะ ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองนาริตะ มีประวัติว่าก่อตั้งในปี 940 ซึ่งรวมๆแล้วภือว่าอยู่มายาวนานเกินพันปี แน่นอนว่าตัวอาคารไม่ใช่ของดั้งเดิมจากพันปีก่อน ตัวอาคารแม้จะถูกบูรณะและสร้างใหม่มาหลายครั้งแล้วแต่ก็สวยงามมากๆและได้รับการบันทึกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น โดยส่วนมากนักท่องเที่ยวจะมาขอพรเพื่อให้เดินทางปลอดภัย เพราะอยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ และเนื่องจากวัดนาริตะเป็นวัดที่มีเทพเจ้าสถิตอยู่มากมาย จึงทำให้ในวันขึ้นปีใหม่มีผู้คนหลั่งไหลมาขอพรกันอย่างมากมายมหาศาลเลยที่เดียว ตัววัดเป็นพื้นที่กว้าง ประกอบด้วยอาคารต่างๆที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากมาย &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%8b%e0%b8%b1%e0%b8%99-naritasan-shinshoji-temple/">Continued</a>

เที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์ ไปกับนู๋JUB ณ เมืองฮิโรชิม่า กับสถาปัตยกรรมและประติมากรรมที่ยังหลงเหลือจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู เพื่อเป็นความทรงจำแห่งความสันติภาพของชาวญี่ปุ่น ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลยย~ โดมระเบิดปรมาณู หรือ Atomic Bomb Dome ซากของอาคารแสดงสินค้าประจำจังหวัดฮิโรชิม่าตั้งห่างจากจุดที่ระเบิดลงเพียง 160 เมตร แต่น่าแปลกที่ตัวโดมนี้ไม่ได้พังทลายไปทั้งหมด ทั้งๆ ที่อาคารอื่นๆ ในบริเวณนั้นถูกระเบิดราบเป็นหน้ากอง ซากของอาคารจึงได้รับการรักษาเอาไว้และยังคงตั้งอยู่ในพื้นที่เดิมในปัจจุบันเพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำของชาวญี่ปุ่น และยังได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1996 อีกด้วย ข้างโดมระเบิดปรมาณูจะเป็นทางเดินเลียบแม่น้ำข้ามสะพานโมโตยาสุ (Motoyasu Bridge) สามารถเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยสดงดงามในบริเวณนี้ได้ค่ะ เมื่อข้ามสะพานโมโตยาสุไปอีกฟากจะเจออนุสาวรีย์สันติภาพของเด็กหรือ Children’s Peace Monument สร้างขึ้นเพื่อเด็กหญิงซาดาโกะ ซาซากิ (Sadako Sasaki) ที่ถูกรังสีของระเบิดปรมาณูตอนอายุเพียง 2 ขวบ และเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ระหว่างที่ซาดาโกะรักษาตัว ได้พับนกกระเรียนกระดาษจำนวนมากซึ่งต่อมานกกระเรียนได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ และมีการจัดนิทรรศการเพื่อรำลึกหมุนเวียนตลอดทั้งปี ดวงไฟแห่งสันติภาพ (Flame of Peace) ทำจากหินรูปมือปกป้องดวงไฟเอาไว้ในอุ้งมือตั้งอยู่กลางสวนสันติภาพ ในทุกๆปีชาวเมืองจะจัดงานที่บริเวณนี้เพื่อเตือนตัวเองและทุกคนถึงอันตรายของระเบิดนิวเคลียร์ รณรงค์ให้ทุกประเทศหยุดทดลองและหยุดใช้ระเบิดนิวเคลียร์ตลอดไปค่ะ ใกล้ๆกับดวงไฟแห่งสันติภาพจะมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%ae%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2-%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%84%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%a1/">Continued</a>

สายช้อปห้ามพลาด! นู๋JUB จะพาไปช้อป กิน เที่ยว ที่ The Outlets Hiroshima ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ รวบรวมแบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยม มีโซนต่างๆมายมาย เช่น โซนอาหารและฟู้ดคอร์ท โซนบันเทิง ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ ลานสเก็ตน้ำแข็ง และโบว์ลิ่ง และยังมีโซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารขนาดใหญ่ที่มีของอร่อยๆจากเขตเซโตะอุจิอีกด้วย สำหรับการเดินทางก็สะดวกมาก สามารถเดินทางด้วยรถบัสมาลงที่สถานี JR นิชิฮิโรชิม่า ใช้เวลาเพียงประมาณ 25 นาทีเท่านั้นค่ะ ด้านใน The Outlets Hiroshima ทั้ง2ฝั่งทางเดินจะมีร้านสินค้าแฟชั่นของแบรนด์ต่างๆที่ได้รับความนิยม ทั้งแบรนด์ชื่อดังจากต่างประเทศ และแบรนด์ญี่ปุ่นที่ถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ยังมีโซนร้านอาหารและฟู้ดคอร์ทซึ่งบริการลูกค้าได้ราว 1,000 ที่นั่ง จำหน่ายอาหารท้องถิ่นเลิศรส รวมทั้งเมนูอาหารอร่อยจากทั่วประเทศ เรียกได้ว่ามาที่ The Outlets Hiroshima ที่เดียวได้ทั้งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ครบคุ้มจบในที่เดียว ใครมาเที่ยวที่ฮิโรชิม่าห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะคะ สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยว : The Outlets Hiroshima : &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/the-outlets-hiroshima-%e0%b8%ae%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2/">Continued</a>