ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) ตั้งอยู่ในเมืองไอสุวาคามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ โดยมีเอกลักษณ์เป็นปราการปราสาทขนาดใหญ่ที่มีหลังคากระเบื้องสีแดงโดดเด่น ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทไร้พ่ายที่ผ่านมาทั้งแผ่นดินไหวและสงครามมากมาย ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle)&nbsp;ตั้งอยู่ที่เมืองไอสุวาคามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ&nbsp;ภูมิภาคโทโฮคุ&nbsp;มีชื่อเรียกอีกชื่อคือ ปราสาทไอสุวาคามัตสึ (Aizuwakamatsu Castle) ตามที่ตั้งของปราสาท สภาพของปราสาทที่เห็นในปัจจุบันถูกสร้างต่อเติมมาหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 &#8211; 17 หลังก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ก็มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ของภูมิภาคโทโฮคุเมื่อปี 1611 ตามมาด้วยสงครามโบชินในช่วงปี 1868 &#8211; 1869 แต่ปราสาทสึรุกะก็ไม่เคยพังทลายจึงได้รับการเรียกขานว่าปราสาทไร้พ่าย ถึงจะผ่านภัยพิบัติและสงครามมาหลายครั้งแต่ท้ายที่สุดปราสาทไอสุวากามัตสึก็ต้านทานยุคสมัยไม่ได้เมื่อมีคำสั่งให้ทำลายปราสาทหลายแห่งในยุคปฏิรูปเมจิ หลังจากนั้นปี 1965 จึงได้รับการสร้างใหม่ให้เหมือนกับรูปแบบปราสาทเดิมเมื่อศตวรรษที่ 17 โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่หลังคากระเบื้องสีแดงของเท็นชุ โดยปราสาทและพื้นที่รอบปราสาทได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของชาติ ปราการของปราสาทสึรุกะมีทั้งหมด 5 ชั้น เด่นด้วยผนังสีขาวตัวกับสีหลังคากระเบื้องสีแดง ซึ่งเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีหลังคากระเบื้องสีแดง &nbsp; ภายในมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และแสดงข้าวของเครื่องใช้ของเหล่านักรบซามูไร จากชั้นที่ 5 ของปราสาทสามารถชมวิวอันงดงามของได้ ในส่วนของด้านล่างเป็นร้านขายของฝากที่มีขนมอร่อย ๆ จากฟุกุชิมะมากมาย เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิโดยรอบตัวปราสาทได้รับการแต่งแต้มสีชมพูอ่อน จากกลีบดอกซากุระเข้ากันดีกับหลังคาปราสาทสีแดง เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือนใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มแดงและเหลือง เมื่อรวมกับฉากหลังที่เป็นปราสาทเก่าแก่ยิ่งเป็นภาพที่งดงาม&nbsp; ปราสาทสึรุกะ ล้อมรอบด้วยสวนสาธารณะสึรุกะ(Tsuruga Castle &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%aa%e0%b8%b6%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b0-%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b0/">Continued</a>

ศาลเจ้าเป็นเหมือนที่สถิตของผู้สร้าง ศาลเจ้านันโกะ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของสวนนันโกะ เป็นที่สถิตของมัตสึไดระ ซาดะโนบุ (Matsudaira Sadanobu)&nbsp; เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่เก่าแก่ เป็นสวนแห่งการพักผ่อนสำหรับชาวเมืองที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ มีที่ชำระล้างเมื่อเข้ามายังสถานที่เพื่อความสะอาดบริสุทธิ์และเป็นศิริมงคล ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมความงดงามของธรรมชาติได้แทบจะทุกฤดู โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ ดอกไม้ตั้งเรียงรายรอบทะเลสาบนันโกะ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนมากๆ อากาศเย็น รอบๆ เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด ช่วงฤดูใบไม้ร่วงทั่วทั้งบริเวณจะถูกย้อมเป็นสีส้มแดง ดื่มด่ำความงามได้แม้ในยามค่ำคืน แสงไฟจะส่องสว่างไสวไปทั่วบริเวณ อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเยือนที่สวนแห่งนี้ก็คือ การได้มาลิ้มรสขนมแสนอร่อยที่เป็นอีกหนึ่งของขึ้นชื่อของเมืองนี้ ภายในสวนยังมีศาลเจ้า และเรือนชงชาให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้พิธีการชงชาแบบญี่ปุ่น &nbsp;ภายในสวนยังมีศาลเจ้า Nanko Jinja ให้ขอพรอีกด้วย&nbsp; มีที่ให้เช่าเครื่องรางสำหรับบุคลที่จะเข้ามาทำการสักการะ สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป : ศาลเจ้านันโกะ สวนนันโกะ ทัวร์ฟุกุชิมะ เที่ยวFukushima โดยรถสาธารณะ : จากสถานี JR ชินชิราคาวะ (JR Shin Shirakawa Station) สายโทโฮคุ (Tohoku Line) โดยรถบัสประมาณ 10 นาที ลงป้ายรถบัสนันโกะโคเอ็น (Nanko Koen Bus &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%81%e0%b8%b0-%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b8%a1%e0%b8%b0/">Continued</a>

เป็นเส้นทางชมวิวที่มีความยาวถึง 29 กิโลเมตร จากทาคายุออนเซ็นไปจนถึงสันเขาทสึจิยุ ซึ่งจุดที่สูงที่สุดนั้นอยู่ที่ 1,622 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตลอดทุกฤดูกาลนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามที่แปรเปลี่ยนของธรรมชาติ สีเขียวขจีจากฤดูร้อนไปจนถึงสีส้มแดงสดใสของใบไม้เปลี่ยนสีจากฤดูใบไม้ร่วง บันไดอาซูมะสกายไลน์นั้นตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติบันได-อาซาฮิ โดยเป็นถนนเส้นชมวิวภูเขาสายสำคัญของฟุกุชิมะที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ถนนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากถนนจะปิดในฤดูหนาว การเปิดถนนอีกครั้งในเดือนเมษายนนั้นเป็นสัญญาณของการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ&nbsp;ที่จะทำให้ท่านเพลิดเพลินไปกับการขับรถท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาไฟอันน่าตื่นตาตื่นใจของเทือกเขาอาซูมะ และความเขียวชอุ่ม และใบไม้สีสันสดใสของฤดูใบไม้ร่วง &nbsp; โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร ระยะทางยาวทั้งสิ้น&nbsp; 29 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างแหล่งน้ำพุร้อนทากายุ ใน เมืองฟุกุชิมะกับเส้นทางขึ้นภูเขาทสึจิยุ จากจุดชมวิวอาซุมะฮักเก มองลงมาจะเห็นป่าใบไม้เปลี่ยนสีที่แสนงดงาม ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว จากทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก เดินทางมาชื่นชมความงดงามของที่นี่ อีกทั้งน้ำพุร้อนที่อยู่ในละแวกนั้น ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไปด้วย สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป : เส้นทางบันไดอาซูมะ สกายไลน์ Bandai Azuma Skyline โดยรถสาธารณะ : จากสถานี JR ฟุกุชิมะ (JR Fukushima Station) โดยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ลงป้ายรถบัสโจโดไดระ &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%8b%e0%b8%b9%e0%b8%a1%e0%b8%b0-%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b0/">Continued</a>

หากเพื่อนๆ เป็นนักท่องเที่ยวสายลุยที่หลงใหลในความงามอันน่าพิศวงของธรรมชาติ ต้องไม่พลาดไปเยือนบึงห้าสี หรือ “โกะชิคินุมะ” ที่จังหวัดฟุกุชิมะ สักครั้งในชีวิต เพราะภาพวิวที่คุณจะเห็นแต่ละครั้งนั้นแทบไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง! มารู้จักกับ “โกะชิคินุมะ” บึงน้ำห้าสีสุดลึกลับที่ไปครั้งเดียวไม่เคยพอกันค่ะ โกะชิคินุมะ (Goshikinuma&nbsp; Ponds) เป็นชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดฟุกุชิมะ ทางตอนเหนือของโตเกียวในภูมิภาคโทโฮคุ ประกอบด้วยบึงที่สวยงามมากมาย ได้แก่ บิชาโมนุมะ (Bishamonuma), อาคานุมะ (Akanuma), มิโดโรนุมะ (Midoronuma), ทัตสึนุมะ (Tatsunuma), เบนเทนุมะ (Bentenuma), รุรินุมะ (Rurinuma), อาโอนุมะ (Aonuma) และยางินุมะ (Yaginuma) สถานที่แห่งนี้ได้รับการรีวิว 1 ดาว จากมิชลินกรีนไกด์ในปี 2016 อีกด้วย ชื่อโกะชิคินุมะหรือบึงน้ำห้าสีมาจากน้ำในแต่ละบึงซึ่งมีสีที่แตกต่างผสมกันอยู่อย่างสวยงาม มีทั้งสีเขียวมรกต, สีน้ำเงินโคบอลต์, สีน้ำเงินสีเขียวขุ่น, สีฟ้ามรกตและสีฟ้าพาสเทล ทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า “บึงลึกลับ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งบึงอาโอนุมะ ที่มีสีสวยงามจนหลายคนไม่อยากจะเชื่อว่าสีเหล่านั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เขาว่ากันว่าปัจจัยที่ทำให้สีของน้ำแตกต่างกันนั้นเกิดจากสภาพอากาศตามฤดูกาล มุมมอง และสารภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำ โดยสีอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับฤดูกาลหรือสภาพอากาศของเวลาในวันนั้นๆ ดังนั้นการมาเยี่ยมชมที่นี่ในแต่ละครั้งเราจะได้รับชมบรรยากาศและความสวยงามที่แตกต่างกันไป ไปครั้งเดียวคงไม่พอแน่นอนค่ะ &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%82%e0%b8%81%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%b0-%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b0/">Continued</a>

Wonder Farm เป็นฟาร์มท้องถิ่นที่มีพื้นที่กว้างมาก ๆ เทียบเท่าได้กับสนามฟุตบอลเลยทีเดียว ภายในมีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่นที่รวบรวมจากจังหวัดฟุกุชิมะ&nbsp;มีคาเฟ่จำหน่ายเมนูสุดพิเศษอย่างซอฟต์ครีมมะเขือเทศและพุดดิ้ง เป็นต้น เป็นสวนสนุกของการเกษตรเชิงซ้อนที่เป็นความร่วมมือระหว่างสวนปลูกมะเขือเทศและเกษตรกรในท้องถิ่น สามารถลิ้มรสอาหารที่ทำจากผักและทดลองเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรได้ ที่นี่ยังมีโซนทำบาร์บีคิว โซนเก็บมะเขือเทศสด ๆ จากต้น และมีร้านอาหารภายในฟาร์มที่ชื่อว่า Mori no Kitchen ซึ่งให้บริการอาหารแบบบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน (วันธรรมดา 11.00 น. – 15.00 น., วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุด 11.00น. – 15.30 น.) ภายในเวลา 90 นาที โดยมีอาหารให้เลือกมากกว่า 40 อย่าง ราคาผู้ใหญ่ 1,700 เยน, เด็ก 1,100 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี ฟรี ที่โรงงานแปรรูปมะเขือเทศ เช่น น้ำมะเขือเทศและพูเร (น้ำมะเขือเทศเข้มข้น) เป็นต้น , “สวนดอกไม้ &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%9f%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a1-%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b0/">Continued</a>

อีกหนึ่งมุมถ่ายภาพขวัญใจของเหล่าช่างภาพ จุดชมวิวแม่น้ำทาดามิและทางรถไฟสายทาดามิที่ไม่ว่าฤดูไหนก็สวยเสมอ ชมแมกไม้เขียวขจีในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน สีสันแสบตาของใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และภูเขาสีขาวโพลนในช่วงฤดูหนาว ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของจุดชมวิวแห่งนี้คือการชมทัศนียภาพสวย ๆ พร้อมรถไฟที่วิ่งข้ามผ่านสะพานโค้งจากภูเขาลูกหนึ่งไปสู่ภูเขาอีกลูกหนึ่ง สะพานไดอิจิเคียวเรียว ถือเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัด FUKUSHIMA และในแต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวและช่างภาพชาวญี่ปุ่นจำนวนมากมาดูความสวยงามของรถไฟขณะที่กำาลังวิ่งบนสะพานโดยมีแม่น้ำที่กว้างใหญ่ และภูเขาที่สมบูรณ์เป็นฉากอยู่ด้านหลัง ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยและโรแมนติกที่สุดในญี่ปุ่น ในฤดูหนาวยังมีเทศกาลหิมะให้ได้ไปสัมผัสและชมดอกไม้ไฟสวยๆอีกด้วย มีความประทับใจกับความเงียบสงบไม่วุ่นวาย แต่ละจุดท่องเที่ยวบนเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยวิวสวยๆ และยังสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ซึ่งวิวมันสวยแต่ต่างกันไปในแต่ละฤดู นึกภาพตามหากเป็นหิมะปกคลุมทั้งภูเขาก็สวยไปอีกแบบ หากเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยมากเลยค่ะ มีของทานเล่นให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวชมวิวได้รับประทาน เช่นซอฟครีม ชาโคล อร่อยมากกก จุดนี้จะต้องเดินเท้าขึ้นไปนิดหน่อยแต่ไม่ยากเลยค่ะ เห็นคุณลุงคุณป้าวัย 60 ชาวญี่ปุ่นเดินกันสบายๆ เลย แต่ถ้าฝนตกก็จะลื่นนิดหน่อย สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป : สะพานไดอิจิเคียวเรียว : จุดชมวิวเส้นทางรถไฟสาย Tadami Line สุดโรแมนติกที่จังหวัดฟุกุชิมะ นั่งสายJR Tohoku ลงสถานี Koriyama (1.20 ชม.) จากสถานี Koriyama ต่อสาย JR Ban etsu west line ลงสถานี &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7/">Continued</a>