ที่กิฟุนั้นมีเมืองเก่าเล็ก ๆ ที่บรรยากาศร่มรื่น อากาศสดชื่นอย่างเมืองเก่ากุโจฮะจิมัง เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น มีถนนสายเล็ก ๆ ที่เรียกว่า อิกาวะ โคมิจิ ทางคูน้ำใสสะอาดมีเหล่าปลาคาร์ต่างก็แหวกว่ายกันมากมาย ช่วงหน้าร้อนสามารถสนุกไปกับการสวมชุดยูกาตะและเข้าร่วมเทศกาลการร่ายรำบงโอโดริสุดยิ่งใหญ่ของเมืองเก่ากุโจฮะจิมังอีกด้วย จะน่าสนุกเเค่ไหน&#8230;ไปดูกัน เริ่มที่เมืองเก่ารอบปราสาทกุโจฮาจิมัง คือบ้านเมืองที่ยังหลงเหลือบรรยากาศแบบย้อนยุคไปสมัยอดีตเรียงรายอยู่ กุโจฮาจิมังเป็นที่มีรางน้ำจำนวนมากจนถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ ซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลสะท้อนไปทั่วทั้งตัวเมือง ด้วยบรรยากาศที่ทำให้หวนนึกถึงอดีตนั้น ทังยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆอีกหลายจุดทำให้ทั้งเมืองเสมือนกับเป็นอีกโลกหนึ่งก็ว่าได้ เพียงแค่เดินในเมืองแห่งนี้ ก็จะสามารถสัมผัสบรรยากาศราวกับย้อนเวลาไปอดีต กุโจฮาจิมังยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆอีกหลายจุดที่ทำทั้งเมืองเสมือนกับเป็นอีกโลกหนึ่งก็ว่าได้ เพียงแค่เดินในเมืองแห่งนี้ ก็จะสามารถสัมผัสบรรยากาศราวกับย้อนเวลาไปอดีตได้ เมืองเล็กน่ารักแห่งนี้ เขาบอกว่าที่นี่เป็นแหล่งน้ำบริสุทธิ์ชั้นเลิศ เพราะชาวเมืองให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการรักษาความสะอาดของคลองและน้ำให้สะอาด คลองทางน้ำในเมืองยังคงถูกใช้งานสำหรับการอุปโภคบริโภคของชาวบ้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรายังสามารถเห็นประชาชนชาวกุโจรองน้ำดื่มหรือใช้น้ำล้างผักผลไม้ในชีวิตประจำวันกันเป็นปกติ จุดเด่นที่พลาดไม่ได้ของนักท่องเที่ยวผู้รักน้ำรักปลารักซากุระก็คือ ตรอกไอกะวะ (Igawa alley) ออกแนวตรอกทางเดินแคบๆ ในหมู่บ้านที่มีทางน้ำอยู่ข้างๆ&nbsp; &nbsp;ทางระบายน้ำนี้มีปลาแม่น้ำต่าง ๆ มากมาย เช่น ปลาอะยุ และปลาคาร์ป ที่มีทางน้ำอยู่ข้างๆ บางตัวก็ใหญ่มาก ดูจากขนาดแล้วน่าจะอยู่มานานเกินทศวรรษ ที่เมืองเก่ากุโจฮะจิมังยังมีพิพิธภัณฑ์กุโจฮะจิมังที่เป็น อาคารสไตล์ยุโรปที่ถูกฉาบด้วยปูนสีขาวสะอาดตา อดีตอาคารแห่งนี้เคยเป็นสถานพยาบาลที่คอยดูแลรักษาชาวเมืองมาตลอด ปัจจุบันภายในห้องตรวจไข้ต่าง ๆ มีทั้งขวดยา เตียงตรวจโรค โต๊ะทำงานของแพทย์ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังคงตั้งอยู่ในสภาพเดิม &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%9f%e0%b8%b8-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b9%82/">Continued</a>

ถ้าคุณต้องการเที่ยวและได้รับความรู้ไปด้วยในตัว ต้องนึกถึงที่นี้เลย พิพิธภัณฑ์แห่งชาติด้านชีววิทยาทางทะเลและสัตว์น้ำ National museum of marine biology and aquarium ถือเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งชาติด้านชีววิทยาทางทะเลแห่งแรกของไต้หวัน อีกทั้งยังเป็นสวนน้ำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย ได้ทั้งเที่ยวเปิดหูเปิดตาเหมือนได้อยู่ใต้มหาสมุทร ที่เต็มไปด้วยฝูงปลาชนิดที่แตกต่างออกไป เพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านชีววิทยาทางทะเลและเพื่อการรักษาความอุดมสมบูรณ์และสิ่งแวดล้อมทางทะเลให้คงไว้ รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมการแสดงจากสัตว์ทะเล อควาเรียมนี้ใหญ่มาก มี 3 ตึก เป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไต้หวันและมีพันธุ์ปลาที่หลากหลายแบ่งเป็นพื้นที่ อาคารอาณาจักรปะการัง อาคารน่านน้ำไต้หวัน อาคารน่านน้ำโลก และสวนป่าชายเลน&nbsp; หน้าจอจัดแสดงสัตว์ทะเลของพิพิธภัณฑ์ จะมีสัตว์น้ำหลากหลายชนิดที่จะให้เราได้ชม ในจุดนี้บอกเลยว่า นู๋JUB เพลินมากเลยค่ะสัตว์น้ำนานาชนิดได้ว่ายวนเวียนมาให้ชม อุโมงค์ใต้น้ำ เป็นอีกส่วนของสถานที่แห่งนี้บอกได้เลยว่าสวยงามมากเลยค่ะ เหมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ใต้มหาสมุทรถือว่าได้เปิดหูเปิดตามากๆค่ะ บริเวณจุดอุโมงค์ใต้น้ำนี้ ก็ยังสามารถนอนค้างคืนท่ามกลางฟูงปลาได้อีกด้วยค่ะ และสามารถเลือกโซนที่เราต้องการจะนอนได้อีกด้วย จะนอนเล่นกับแพนกวิ้น หรือนอนดูปะการังสามารถเลือกโซนได้ตามที่เราต้องการเลยค่ะ ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่เลยค่ะ บอกตรงๆอยากมีเวลาเดินดู National museum of marine biology and aquarium&nbsp;มากกว่านี้ รวมๆแล้วเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจ ถ้ามากับคู่รักก็จะโรแมนติก มากับครอบครัวก็อบอุ่น มาคนเดียวก็ตื่นตาตื่นใจมาก ไม่ว่ามากับใครก็ไม่ควรพลาด สิ่งที่ควรรูก่อนเที่ยว : National &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%9c%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b8%87-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-national-museum-of-marine-biology-and-aquarium-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b9%88/">Continued</a>

ใครที่อยากเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นดี ขอแนะนำ เจดีย์มังกรเสือ วัดฉือจี้ ที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามขององค์เจดีย์และความสวยงามโดดเด่นของหุ่นมังกรเสือขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องความโชคดีซึ่งวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มาก ๆแถมบรรยากาศโดยก็สวยสุดๆ ไปเลย เกาสงถือว่าเป็นเมืองใหญ่ที่ติดลำดับ 3 ของประเทศใต้หวัน มีความเจริญมากผู้คนพากันไปเที่ยวมากมาย เเละหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของเกาสงที่น่าสนใจคือ เจดีย์มังกรเสือ วัดฉือจี้หรือเรียกตามชื่อจีนว่า เจดีย์หลงหู ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัดฉือจี้ ลักษณะเป็นเจดีย์สูง&nbsp;7&nbsp;ชั้น&nbsp;2&nbsp;องค์ ตั้งอยู่คู่กัน โดยจะมีรูปปั้นมังกรและเสือขนาดใหญ่เป็นทางเข้าเจดีย์ ตั้งอยู่โดดเด่น อยู่กลางริมสระบัวหรือสระเหลียนฉือถัน ชาวไต้หวันมีความเชื่อว่าการเดินเข้าปากมังกรและเดินทะลุออกปากเสือนั้น เปรียบเสมือนการเปลี่ยนจากความโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดี ระหว่างทางเดินเข้าไปยังปากมังกรเพื่อทะลุออกปากเสือจะมีประติมากรรมภาพปั้นนูนบนผนังด้านในตัวมังกรซึ่งแสดงถึงตำนานเรื่องราวต่างๆ เช่น นรก สวรรค์ ตามความเชื่อของลัทธิเต๋า&nbsp; ตามทางเดินมีรูปปั้นและภาพวาดเรื่องราวต่าง ๆ ตามความเชื่อของลัทธิเต๋า เช่น นรก สวรรค์ ภายในเจดีย์จะมีบันไดวน 2 ทางสำหรับขึ้นและลงสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์รอบ ๆ ทะเลสาบได้ บรรยากาศดีมากโดยเฉพาะยามเย็น สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยี่ยมชมเจดีย์มังกรเสือคือการขึ้นไปยังยอดเจดีย์เพื่อชมทิวทัศน์ทะเลสาบ โดยทะเลสาบเเห่งนี้จะสวยที่สุดในช่วงบ่ายที่แดดล่มลมตก เพราะแสงอาทิตย์จะตกกระทบกับผืนน้ำเป็นเงาสะท้อนที่สวยงามมากๆเลยที่เดียว สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : เจดีย์มังกรเสือ วัดฉือจี้ ไต้หวัน ไม่เสียค่าเข้าชม เปิดตลอดทั้งปี รวมทัวร์ไต้หวันทั้งตลาด I รีวิวไต้หวัน &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%87-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b9%8c%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a3/">Continued</a>

สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศเเต่นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหนขอเเนะนำที่นี่เลย เมืองกุโจประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของจังหวัดกิฟุนั้น เป็นเมืองที่ยังหลงเหลือความงดงามของเมืองรอบปราสาท มีทั้งเมืองเก่าที่เรียงรายกัน และรางน้ำที่สวยงาม จากนี้จะขอแนะนำเสน่ห์ของเมืองกุโจ นั่นก็คือปราสาทกุโจฮะจิมังที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น การเดินทางเราจะเดินขึ้นไปเยี่ยมชมของปราสาทกุโจฮะจิมัง ระยะทางไม่ไกลมากและโดยรอบของสองข้างทางระหว่างเราเดินขึ้นไปนั้นก็จะมีต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีให้เราได้รู้สึกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ปราสาทกุโจฮะจิมังนั้นตั้งอยู่บนภูเขาแล้วเรียกได้ว่ามีบรรยากาศและวิวคู่กับปราสาทสวยงดงามที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ในบรรดาปราสาทที่ตั้งอยู่บนเขา ซึ่งในบางครั้งจะมองเห็นว่าปราสาทกุโจฮะจิมังนั้นล่องลอยอยู่เหนือม่านเมฆราวกับว่าเป็นปราสาทบนสวรรค์ แน่นนอนว่าได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ชื่นชอบปราสาทอีกด้วย อีกทั้งเนื่องจากตัวปราสาทนั้นตั้งอยู่บนภูเขา ทุกท่านจะสามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหมู่บ้านกุโจ ได้จากชั้นบนของปราสาทซึ่งเป็นภาพสุดแสนงดงามที่หาจากไหนไม่ได้ ปราสาทกุโจโฮจิมังมีทั้งหมด 4ชั้น เเละสามารถขึ้นไปถ่ายรูป ชมวิวสวยๆของหมู่บ้านกุโจที่มีรูปร่างคล้ายหางปลา ปังเว่อร์วิวหลักล้าน ค่าเข้าชมสถานที่ ผู้ใหญ่ : 310 เยน เด็ก : 150 เยน สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : ปราสาทกุโจฮะจิมัง การเดินทางมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวหรือรถไฟ สามารถเลือกตามที่ตนเองสะดวก &nbsp;เวลาการเปิด-ปิดทำการจะแตกต่างกันในแต่ละฤดู&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; มีนาคม-พฤษภาคม, กันยายน-ตุลาคม เปิดเวลา 9.00 – 17.00 น. &nbsp; &nbsp; &nbsp; มิถุนายน-สิงหาคม เปิดเวลา 8.00 – 18.00 น. &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%9f%e0%b8%b8-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%81%e0%b8%b8/">Continued</a>

ถ้านึกถึงเรื่องของการพักผ่อน ก็ต้องที่ นางาซากิ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะเพลิดเพลินไปกับการผ่อนคลายด้วยการแช่เท้า น้ำพุร้อนกลางแจ้งที่สามารถมองเห็นภูเขาที่สุดยิ่งใหญ่จะเพลิดเพลินเเค่&#8230;ไหนไปดูกัน เริ่มกันที่จุดแช่เท้าอาชิยุ 105 ที่ออนเซ็นโอบามะ ในเมืองอันเซ็นของนางาซากิ เป็นออนเซ็นขนานใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ชายทะเล เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ตกไปพร้อม ๆ กับแช่เท้าในน้ำอุ่น หรือออกไปเดินเล่นสบาย ๆ ในเมืองบ่อน้ำพุร้อนแสนสงบแห่งนี้ คุณจะเพลิดเพลินไปกับการผ่อนคลายด้วยการแช่เท้าในน้ำอุ่นๆออนเซ็น กลางแจ้งริมทะเล ความยาวของจุดแช่เท้าที่เป็นศูนย์รวมของน้ำพุร้อนทั้งหมดจากออนเซ็นโอบามะแห่งนี้เป็นน้ำพุร้อนที่มีความยาวถึง 105 เมตรซึ่งยาวที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยสาเหตุที่เลือกสร้างให้มีความยาว สืบเนื่องมาจากอุณหภูมิของน้ำจากแหล่งน้ำของออนเซ็นโอบามะซึ่งเท่ากับ 105 องศา ท่านสามารถเพลินเพลินไปกับการแช่เท้าขณะนั่ง เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มตอนพลบค่ำ การจุ่มเท้าของคุณลงไปในน้ำพร้อมกับชมภาพของดวงอาทิตย์ที่กำลังจมดิ่งลงสู่อ่าวทาจิบานะก็เป็นประสบการณ์อันยากจะลืมเลือน มาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ แน่นอนครับว่าต้องห้ามพลาดกับ กาแฟ ของที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ &#8220;โอบามะ ออนเซ็น&#8220; ลิ้มรสชาติของกาแฟที่หอมกรุ่น และนุ้มลิ้นท่ามกลางบรรยากาศที่น่าหลงไหลไปกับบรรยากาศในตอนเช้า ณ ที่ &#8220;โอบามะ ออนเซ็น&#8221; แห่งนี้ สุดปัง สุดปัง สุดปัง สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : โอบามะ ออนเซ็น (Obama Onsen) เวลาเปิดทำการ เมษายน &#8211; ตุลาคม 8:30-19:00 &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%8b%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b4-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%b2/">Continued</a>

ถ้าพูดถึงเมืองคุมาโมโต้ประเทศญี่ปุ่นทุกคนคงจะนึกถึงภาพหมีดำ เเก้มเเดง เพราะเป็นมาสค็อตประจำเมืองคุมาโมโต้ที่มีลักษณะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมเมืองเเห่งนี้ เเละไม่ใช่เเค่เจ้าหมีคุมามงเท่านั้นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเเต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเเห่งที่น่าสนใจ อยากรู้ใช่ไหมว่าคือที่ไหน..ไปดูกันเลย การเดินทางของเราก็จะเดินทางโดยรถไฟ JR ที่สถานีรถไฟคุมาโมโต้ เพราะถือเป็นสถานีหลักประจำเมืองคุมาโมโต้ เพื่อที่จะเดินทางไปที่ สวนซุนเซ็นจิ เมื่อเข้ามาภายในสถานีรถไฟทุกท่านก็จะเห็นเจ้าหมีคุมามง คอยทักทายเเละต้อนรับอยู่ในแต่ละจุด นอกจากนี้โดยรอบของสถานีรถไฟคุมาโมโต้ก็ยังมีร้านขายของที่เกี่ยวกับเจ้าหมีคุมามงอีกด้วย ที่แรกของการเจิมคุมาโมโตะ คือ สวนซุยเซนจิ ให้ทุกท่านได้เดินเยี่ยมชมสวนเก่าแก่ในเมืองคุมาโมโต้ ที่สร้างมานานกว่าสามร้อยปี โดยไดเมียวในตระกูลโฮโซกาวะและมีรูปปั้นของท่านผู้สร้างสวนนี้ด้วย สวนแห่งนี้จึงกลายเป็นที่โด่งดังที่สุดของเมืองคุมาโมโต้ด้วยรูปแบบของการตกเเต่งที่งดงาม จุดเด่นอีกอย่างที่เห็นคือด้านหลังของสระมีเนินภูเขาจำลองเป็นภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบบิวะ ศาลาไม้ และสะพานหิน นอกจากนี้ภายในสวนยังมีทั้งโรงละครเก่าแก่ ศาลาชงชาริมสระ ศาลเจ้าชินโต สวนท้อ กลางสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสแจ๋วจนมองเห็นฝูงปลาคาร์ฟตัวใหญ่แหวกว่ายไปมาและสามารถให้อาหารปลาได้ด้วย ก่อนจะโบกมือลาสวนซุยเซ็นจิ เราก็ต้องช็อปปิ้งของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านสักหน่อย เเละที่นี่ก็มีของฝาก ของที่ระลึกมากมายให้เราได้เลือกซื้อได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ ไวน์ ของที่ระลึกที่เป็นรูปของเจ้าหมีคุมามง ตุ๊กตาเจ้าหมีคุมามง ฯลฯ ค่าเข้าชมสวน ผู้ใหญ่ คนละ ¥400 เด็ก คนละ ¥200 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : สวนซุยเซ็นจิ ·&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; การเดินทางมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว รถไฟ หรือรถราง เพราะฉะนั้นต้องศึกษาเส้นทางให้เรียบร้อยก่อนที่จะออกเดินทาง &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%8a%e0%b8%b9-%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%82%e0%b8%a1%e0%b9%82%e0%b8%95%e0%b9%89/">Continued</a>