สวัสดีค่ะพี่ๆ วันนี้&nbsp;นู๋JUB&nbsp;จะพาพี่ๆ ไปเที่ยวกันที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมาเนะ &nbsp;มีสัตว์น้ำกว่า 400 สายพันธุ์ให้ได้ชม ไฮไลท์ของที่นี่คือ วาฬเบลูกา น้าา ที่ พิพิธภัณฑ์ สามารถใกล้ชิดกับสัตว์น้ำอีกด้วยน้าาา นี่จะเป็นภาพบรรยากาศรอบๆทางเข้า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมาเนะ น้าา เรามาอยู่กันที่ข้างหน้า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมาเนะ แล้วว ถ้าพร้อมแล้วเราเข้าไปชมบรรยากาศข้างในกันเล้ยยย เข้ามาด้านในก็จะมีป้ายน้องวาฬเบลูกาเลยยย เห็นแล้วก็รู้เล้ยยว่าน้องวาฬเป็นไฮไลท์ของที่นี่ค่าา ได้ตั๋วแล้วก็เข้าไปชมด้านในกันเล้ยย นี่คือน้องวาฬเบลูกา หรือ วาฬขาว เป็นไฮไลท์ของที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชิมาเนะ เลยน้าา เด็กน้อยมาดูน้องวาฬเบลูกา เป็นภาพที่น่ารักมากก น้องวาฬเบลูกาโชว์การแสดงเป่าฟองอากาศรูปวงแหวน น่ารักสุดๆเลยค่าพี่ๆ ส่วนโซนนี้จะเป็นโซนexclusive ค่าเข้าโซนนี้ไม่รวมอยู่ในตั๋วน้าาา จะได้ใกล้ชิดกับน้องๆแบบนี้เลยค่าา คุ้มสุดๆ น้องวาฬดูเชื่องมากๆและน่ารักสุดๆเลยค่ะพี่ๆ โซนนี้จะเป็น อุโมงค์ใต้ทะเล จะมีปลาฉลามและปลาหลากหลายพันธุ์รวมอยู่ในตู้เลยยย เดินไปดูปลาไป คือเพลินสุดๆไปเลยค่ะ มาต่อกันที่โซนบ้านเพนกวิน โซนนี้จะมีโชว์การให้อาหารเพนกวินด้วยน้าา น้องคือปุ๊กปิ๊กน่ารักมากๆ มีขบวนพาเหรดเพนกวิน ให้พี่ๆได้ชมกันด้วยน้าา มีโซนแมวน้ำด้วยน้าาา น้องน่ารักมากกก มีแมงกะพรุนด้วยย สีชมพูน่ารักสุดๆ ช่วงที่ไปเป็นช่วงคริสต์มาสก็จะตกแต่งด้วยธีมคริสส์มาสตามในภาพเล้ยย มาต่อกันที่โซนสุดท้าย นั่นก็คือร้านขายของที่ระลึก &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%93%e0%b8%91%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%a7%e0%b9%8c%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b2/">Continued</a>

สวัสดีค่าา วันนี้นู๋JUB จะพาทุกคนมาเที่ยวกันที่ ชิมาเนะ ซุวาโนะ กันค่าาา มากันที่แรกเลยก็คือ โทริอิ คือ ซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น ตั้งไว้เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่า อาณาเขตเบื้องหลังเสาโทริอินี้เป็นอาณาเขตของเทพเจ้าโทริอิ คือซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น ตั้งไว้เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่า อาณาเขตเบื้องหลังเสาโทริอินี้เป็นอาณาเขตของเทพเจ้า มีอยู่เยอะมาก ๆ เลยละค่ะในญี่ปุ่น และนี่ก็คือศาลเจ้ายาซะนะ สถานที่ข้างในก็จะเป็นที่ไว้สำหรับสักการะนั่นเองค่า นอกจากนี้ยังมีต้นเซลโควาขนาดใหญ่ ที่เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของญี่ปุ่น ซึ่งต้นเซลโคว่า เป็นต้นไม้ขนาดกลาง ที่มีความสูงได้ถึง 30 เมตร ใบมีสีเขียว แต่เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ใบจะเปลี่ยนสันสวยงาม จากสีเหลืองเป็นสีส้ม และแดง ตามลำดับ ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี ชอบแสงแดด และความชื้นนั่นเองค่ะ ย่านเมืองเก่าซุวาโนะ &nbsp;มีอีกชื่อนึงที่หลายคนน่าจะคุ้นหูกันอย่าง เกียวโตขนาดเล็ก โดยย่านนี้ตั้งอยู่ในเมืองเล็ก ๆ อย่างซุวาโนะ ของจังหวัดชิมาเนะ ซึ่งบอกเลยว่าด้วยความที่บรรยากาศของย่านนี้อย่างกับเรายกเอาเมืองเกียวโตมาเลยละค่ะ ตัวเมืองจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายความโบราณจากการที่มีอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ไว้ และใจกลางเมืองมีบ้านพักเก่าของซามูไรที่มีกำแพงดินสีขาว กระเบื้องมุงหลังคาสีแดงเข้ม และหน้าต่างไม้ เรียงรายอยู่ริมถนน ชวนให้นึกถึงบรรยากาศสมัยก่อน ย่านนี้นับได้ว่าเป็นย่านที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายและมีความหลากหลายมากๆเลยนะคะ&nbsp; และที่เมืองนี้ยังมีคลองที่เต็มไปด้วยปลาคาร์พสีสันสวยงามถือเป็นเอกลักษณ์ของเมือง น้ำใสสะอาดมาก &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b0-%e0%b8%8b%e0%b8%b8%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b8%b0-tsuwano-shimane/">Continued</a>

สวัสดีค่าทุก ๆ คน วันนี้นู๋JUBจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่ ศาลเจ้ายาเอกาคิ ศาลเจ้าขอพรเรื่องรัก แห่งชิมาเนะ ค่ะ โทริอิ คือซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น ตั้งไว้เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่า อาณาเขตเบื้องหลังเสาโทริอินี้เป็นอาณาเขตของเทพเจ้าค่ะ ทางเข้าศาลเจ้ายาเอกาคิ จะมีแผนที่แสดงภายในศาลเจ้า และเราจะเห็นรูปตรงข้างล่างด้านซ้ายมือซึ่งเป็นภาพของ เทพซูซาโนะโอะ และเจ้าหญิงคุชินะดะ นั่นเองค่ะ ศาลเจ้ายาเอกาคิ&nbsp;ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมาเนะ บริเวณภูมิภาคชูโกกุบนเกาะฮอนชู โดยจังหวัดชิมาเนะนั้นจะมีลักษณะเป็นที่ราบสลับหุบเขาสูง สิ่งที่โดดเด่นของจังหวัดนี้ก็คือทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ในศาลเจ้าช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะสวยมาก ๆ เลยละค่ะ โดยศาลเจ้านี้นั้นมีตำนานที่มาของศาลเจ้า กล่าวคือ มีเทพองค์นึงที่มีชื่อว่า เทพซูซาโนะโอะ เป็นเทพแห่งทะเลและวายุ ที่ถูกขับไล่ลงมายังโลกมนุษย์ ต่อมาวันนึงเขาได้ให้ความช่วยเหลือคุชินะดะ เจ้าหญิงแห่งดินแดนอิซุโมะที่จะต้องเป็นเครื่องสังเวยในพิธีบูชายัญให้กับมังกร 8 หัว ซึ่งคุชินะดะเป็นลูกสาวคนเดียวที่เหลืออยู่ &nbsp;เทพซูซาโนะโอะจึงแต่งเป็นหญิงสาวเพื่อไปล่อลวงและสังหารมังกรทิ้ง&nbsp;และต่อมาเทพซูซาโนะโอะจึงพ้นจากโทษและสามารถกลับสู่แดนสวรรค์ได้ แต่เทพซูซาโนะโอะยังอยากที่จะอยู่โลกมนุษย์ต่อไป ต่อมาเขาได้แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกับ&nbsp;เจ้าหญิงคุชินาดะฮิเมะ ซึ่งจุดที่ทั้งคู่แต่งงานกันก็คือที่&nbsp;“ศาลเจ้ายาเอกาคิ”&nbsp;แห่งนี้นั่นเอง และจากตำนานดังกล่าวจึงเชื่อกันว่านี่คือการแต่งงานครั้งแรกในญี่ปุ่น และด้วยตำนานที่นู๋JUB เล่าให้ฟังกันนั้น ที่นี่จึงกลายเป็นศาลเจ้าที่โด่งดังในเรื่องการขอพรด้านความรักนั่นเองค่ะ โรแมนติกสุด ๆ ไปเลย โดยจุดไฮไลท์จะอยู่ที่&nbsp;&nbsp;“คากามิโนะอิเคะ”&nbsp;ซึ่งเป็นสระน้ำไว้ทำนายในเรื่องความรัก วิธีการเสี่ยงทายก็เพียงแค่นำกระดาษญี่ปุ่นของศาลเจ้าพร้อมกับเหรียญมาลอยบนพื้นผิวของสระน้ำ ถ้ากระดาษใบนั้นจมลงอย่างรวดเร็วหมายถึงคุณจะได้เจอเนื้อคู่ในเร็ววัน แต่หากกระดาษใช้เวลาก่อนจมค่อนข้างนาน แสดงว่าอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักพักกว่าจะพบเนื้อคู่นั้นเอง ในกรณีที่กระดาษจมลงใกล้กับจุดที่เราเริ่มลอยก็หมายความว่าเราจะได้พบรักกับคนใกล้ตัว แต่ถ้ากระดาษลอยออกไปแล้วจมลงในจุดที่ห่างไกลจากจุดที่เริ่มวางกระดาษลงในน้ำก็หมายความว่าเราจะได้พบรักกับคนที่อยู่ห่างไกล เช่น &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/yaegaki-shrine-shimane-%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b4-%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80/">Continued</a>

สวัสดีค่ะ วันนี้ นู๋JUB จะพาเพื่อนๆทุกคนไปล่องเรือรอบแม่น้ำโฮริคาวะชมปราสาทมัตสึเอะกันที่เมืองมัตสึเอะ (Matsue) จังหวัดชิมาเนะ (Shimane) กันค่ะ หากเพื่อนๆรู้จักปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) ป้อมปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญในปี 1950 ก็ไม่ควรพลาดที่จะรู้จักกับอีกหนึ่งกิจกรรมที่เปรียบเสมือนไฮไลท์ของที่นี่ นั่นก็คือกิจกรรมทัวร์ล่องเรือแม่น้ำโฮริคาวะ (Horikawa) เรือจะมีขนาดเล็กและมีหลังคามุง แต่ละลำสามารถนั่งได้ประมาณ 10-12 คน โดยเรือนี่จะพาล่องไปรอบๆปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) ด้วยความยาว 3.7 กม.ค่ะ เพื่อนๆทุกคนจะสามารถสัมผัสได้ถึงธรรมชาติโดยรอบ และอาคารบ้านเรือนได้จากด้านบนเรือค่ะ ที่เรือจะมีคนคอยบรรยายให้ฟังด้วยนะคะ นั่นก็คือคนพายเรือนั่นเองค่ะ จุดที่น่าสนใจต่างๆ นอกจากหอคอยปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) หมู่บ้านซามูไร (Matsue Former Samurai District) และถนนชิโอมินาวาเตะ (Nawata street) ก็จะมีสะพานที่มีโครงสร้างเป็นเอกลักษณ์มากถึง 17 แห่ง และสะพาน 4 แห่งในนั้นจะมีท้องสะพานต่ำกว่าปกติค่ะ คนพายเรือก็จะปรับระดับความสูงของหลังคาเรือ ด้วยระบบคันโยกเอนหลังคาเรือให้ต่ำลง เพื่อนๆทุกคนที่เป็นผู้นั่งเรือก็จะต้องก้มหมอบ เพื่อให้สามารถลอดผ่านสะพานไปได้อย่างราบรื่นค่ะ ท่าเรือของที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แห่ง ซึ่งก็คือ &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/shimane-matsue-horikawa-pleasure-boat-%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%8a%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%99/">Continued</a>

สวัสดีค่ะ วันนี้ นู๋JUB จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) หรือ ”ปราสาทดำ” ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองมัตสึเอะ (Matsue) จังหวัดชิมาเนะ (Shimane) ในภูมิภาคชูโกะคุกันค่ะ หน้าตาของตั๋วเข้าชมปราสาท เดิมปราสาทได้ถูกสร้างขึ้นใน ปี ค.ศ.1611 โดยโฮริโอะ โยชิฮารุ (Horio Yoshiharu) ผู้ครองแควันมัตสึเอะในสมัยเอโดะ และพอเข้าสู่สมัยเมจิ อาคารอื่นๆ ของปราสาทก็ได้ถูกทำลายไปเรื่อยๆ จนมีเพียงป้อมปราสาทเท็นชุคาคุเท่านั้นที่เหลือรอดมาถึงปัจจุบันเพราะมีผู้สนใจรับซื้อเพื่อเก็บรักษาไว้ ลักษณะของตัวปราสาท ตัวอาคารจะมีสีโทนดาร์ก มืดๆ ส่วนหลังคาเป็นหน้าจั่วสามเหลี่ยมยื่นออกมา 2 จุด ด้านข้างเป็นช่องหน้าต่างที่สามารถเปิดออกได้ ในอดีตถูกสร้างเอาไว้เพื่อป้องกันข้าศึกค่ะ ด้านบนยอดหอคอยปราสาท เพื่อนๆทุกคนสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ 360 องศาได้ด้วยนะคะ และนี่คือภาพบรรยากาศที่ นู๋JUB นำมาฝากค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ? สวยมากๆเลยใช่มั๊ย หากเพื่อนๆมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยดอกซากุระบาน หากมาในฤดูหนาวบรรยากาศก็จะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ต่อมา เรามาดูกันที่ภายด้านในปราสาท เพื่อนๆทุกคนจะได้เห็นช่องเล็กๆไว้สำหรับสอดแนม ป้องกัน และลอบโจมตีข้าศึก เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับสงครามภายในค่ะ ด้านในยังมีกลอง และข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ที่เหลืออยู่ ถูกเก็บดูแลรักษาไว้อย่างดีด้วยนะคะ ต่อมา นู๋JUB &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%aa%e0%b8%b6%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%b0-%e0%b8%88%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%8a%e0%b8%a1%e0%b8%8b%e0%b8%b2%e0%b8%81/">Continued</a>

สวัสดีค่าาาา วันนี้นู๋JUB จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ศาลเจ้าไทโกดานิ อินาริ ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ โดยศาลเจ้าไทโกดานิ อินาริ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดชิมาเนะ เป็น 1 ใน 5 ศาลเจ้าอินาริที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยศาลเจ้าแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นประมาณช่วงกลางศตวรรษที่ 18 และที่ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นมาก็เพราะว่า เพื่อป้องกันปราสาทซุวาโนะจากวิญญาณชั่วร้าย โดยหันหน้าไปทางทิศ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า &#8220;ประตูปีศาจ&#8221; เชื่อกันว่าเป็นทิศที่โชคร้าย และการที่เทพเจ้าประดิษฐานอยู่ตามทิศนั้นเชื่อกันว่าจะช่วยกันวิญญาณชั่วร้ายออกไปนั่นเองค่า และนี่ก็คือรูปปั้นของสุนัขจิ้งจอก ซึ่งเป็นข้ารับใช้ของเทพอินาริ เทพแห่งธัญญาหาร และการเกษตร ด้วยความที่ศาลอินารินั้นมีอยู่มากมายทั่วญี่ปุ่น เลยทำให้หลาย ๆ คนมักจะเรียกสุนัขจิ้งจอกในศาลเจ้าว่าอินาริ &nbsp;โดยหน้าที่หลัก ๆ ของจิ้งจอกก็คือการเป็นสื่อกลางนำสาส์นที่ได้จากท่านเทพมายังโลกมนุษย์นั่นเองค่ะ นอกจากนี้ชาวญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีสติปัญญา และอายุที่ยาวนาน หากมีอายุมากขึ้น ก็จะมีพลังที่แก่กล้าขึ้น คนที่มาที่นี่ก็สามารถเขียนขอพรในนี้ได้เลยค่า เชือกศักดิ์สิทธิ์แขวนอยู่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งถ้าได้เคยไปศาลเจ้าอื่น ๆ ของเมืองนี้ก็ลองสังเกตตรงนี้ดูได้นะคะ เพราะจะมีคล้าย ๆ กันเนื่องจากเป็นเสมือนลักษณะพิเศษของศาลเจ้าทั่วไป ๆ ในจังหวัดชิมาเนะ และนี่ก็คือของที่ระลึกจากศาลเจ้านั่นเองค่ะ คนที่มาส่วนมากก็จะเข้ามาสักการะขอพรเรื่องการเกษตรที่ดี ความเจริญรุ่งเรือง และความโชคดี ซึ่งบอกเลยว่าศักดิ์สิทธิ์มาก &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/shimane-taikodani-inari-shrine-%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b9%82%e0%b8%81%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b4-%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%99/">Continued</a>