Hotline (24 hours)

รีวิว เที่ยว Mie – Osaka สุดฟินกับ Kintetsu Group

การเดินทางไปญี่ปุ่นนอกจากเมืองยอดฮิตอย่างโตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้าแล้ว จังหวัด มิเอะ (Mie) ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!! เพราะที่นี่เต็มไปด้วย วัฒนธรรมดั้งเดิม วิวทะเลสวย อาหารสด ๆ และไข่มุกชื่อดังระดับโลก และที่สำคัญยังเดินทางสะดวกมากด้วยบริการของ Kintetsu Group ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส

ทริปนี้ “นู๋JUB” จะพาทุกคนไปรีวิวเส้นทาง Mie Osaka กันแบบละเอียดเลยค่ะ ครบทุกไฮไลต์ ทั้ง ศาลเจ้าอิเสะ ไข่มุกมิกิโมโตะ เมลอนขึ้นชื่อ จุดชมวิวทะเลสุดอลังการ ไปจนถึงโอซาก้า ไปเริ่มกันเลยย~~

วันแรก เราเริ่มกันที่ ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) เป็นศาลเจ้าชินโตที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ ศาลเจ้าอิเสะนั้นเก่าแก่กว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีอามาเทราสุ เทพีแห่งดวงอาทิตย์ ที่คนญี่ปุ่นเคารพกันมากๆ บรรยากาศรอบๆ ศาลเจ้าคือสงบ ขลัง แต่ก็อบอุ่นในเวลาเดียวกัน เหมือนพลังงานดีๆ โอบล้อมเราอยู่ตลอดเลยค่ะ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่ามาไหว้ที่นี่แล้วชีวิตจะมีสิริมงคลขึ้น สมกับที่เป็นเหมือน “หัวใจ” ของศาสนาชินโตเลยค่ะ ใครมีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น ต้องลองแวะมาให้ได้สักครั้งในชีวิตน้าา~

– ทางเข้าศาลเจ้าอิเสะ

หลังจากอธิษฐานขอพรเสร็จแล้ว เราก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ โอคาเกะ โยโคโจ (Okage Yokocho) ถนนช็อปปิ้งชื่อดังของเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ อยู่ใกล้ศาลเจ้าอิเสะ แค่เดินประมาณ 1 กิโลเมตรก็ถึงค่ะ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ขนมหวาน และของฝากพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวเลือกช้อปกันเพลินๆเพียบเลย~

ต่อไปเราได้แวะ จุดชมวิวภูเขาอาซามะ เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเนินสูง ให้มุมมองกว้างสุดลูกหูลูกตาของเมืองอิเสะและบริเวณรอบๆ สามารถนั่งชมวิว และแชะรูปภาพชิลล์ๆ ไปกับบรรยากาศ คือฟีลดีสุดๆ ใครมาที่นี่ต้องแวะจุดนี้เลยค่ะ

คืนแรก เราพักที่ Toba Seaside Hotel เป็นโรงแรมออนเซ็นระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอ่าวโทบะ จังหวัดมิเอะ มีชื่อเสียงด้านวิวทะเลที่สวยงาม ซึ่งวิวทะเลก็สวยมากจริงๆ จนอยากนอนอยู่ท่ีนี่อีกนานๆเลยค่ะ

ซึ่งห้องพักของที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ปูเสื่อทาทามิ หรือแบบตะวันตกที่กว้างขวางและสะอาด มีบางห้องที่มาพร้อม อ่างออนเซ็นส่วนตัวบนระเบียง แช่น้ำร้อนไปชมวิวทะเลไป ฟีลดีสุดๆไปเลยค่ะทุกคน

สำหรับคนชอบกิน แน่นอนว่าที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน ทางโรงแรมมีอาหารทะเลสดๆ จากอ่าวโทบะ ทั้งซาชิมิและอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม กลิ่นทะเลผสมความสดใหม่ของวัตถุดิบ ทำให้ทุกคำที่ทานรู้สึกฟินสุดๆ แถมยังอร่อยมากๆ!!


วันที่สอง คือวันที่ตื่นเต้นมาก! เราไปที่ เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ เกาะเล็กๆใจกลางอ่าวโทบะ

ไฮไลต์ของที่นี่คือ โชว์ดำน้ำของสาวๆ อามะ นักดำน้ำพื้นเมืองที่สืบทอดทักษะการเก็บไข่มุกกันมาตั้งแต่โบราณ เราได้เห็นพวกเธอใส่ชุดดำน้ำแบบดั้งเดิม ลงไปเก็บไข่มุกจากทะเลอย่างชำนาญ เป็นภาพที่หาดูที่ไหนไม่ได้จริงๆค่ะ

นอกจากโชว์แล้ว ที่เกาะยังมี พิพิธภัณฑ์ไข่มุกมิกิโมโตะ ให้เราได้เรียนรู้ประวัติและกระบวนการผลิตไข่มุกอย่างละเอียดด้วยนะ เดินเล่นรอบเกาะก็เพลินๆ เพราะมีร้านขายของฝากน่ารักๆ และวิวทะเลสวยๆ ให้ถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่เลย~

ไม่ไกลกันมากจะมี Kawaguchi Farm ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “Nanbari Melon” ที่ฟาร์ม เราสามารถเดินชมแปลงเมล่อน ดูการปลูก และบางช่วงยังมีโซนให้ ลองชิมเมล่อนสดๆ จากต้น ด้วยนะคะ

นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เล็กๆ เสิร์ฟเมนูขนมหวานจากเมล่อน ทั้งไอศกรีม น้ำปั่น และพาร์เฟ่ต์ด้วย ใครรักของหวานและผลไม้ญี่ปุ่น ต้องห้ามพลาด Kawaguchi Farm เลยค่ะ ทั้งชิม ทั้งถ่ายรูป ฟีลดีมากๆ

กลางวัน เรานั่งชิลใน Ama Hut Satoumi-an คนไทยจะเรียกว่า “กระท่อมอามะ” ที่นี่เป็นร้านอาหารเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของอามะซัง ได้ทั้งประสบการณ์วัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ ได้รู้เรื่องราวของอามะ และการได้ชิมอาหารทะเลสดๆ

อามะซังจะเอาซีฟู้ดสด ๆ มาปิ้งย่างให้กินตรงหน้า ฟีลโฮมมี่มากกก บวกกับ “ข้าวหญ้าทะเลฮิจิกิ” รสเข้มๆ โอ้โห~ ดีเกินไปแล้ว อร่อยมาก!

พอตกบ่าย เราไปทำกิจกรรมที่ Pearl Miki ถ้าใครมาโทบะแล้วชอบไข่มุก ต้องห้ามพลาดที่นี่เลยค่ะ ที่นี่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและร้านขายไข่มุกที่มีชื่อเสียงมากในเมืองนี้ ไฮไลต์ของที่นี่คือ กิจกรรมเวิร์กช็อปทำเครื่องประดับไข่มุก  นักท่องเที่ยวสามารถเลือกไข่มุก เลือกแบบสร้อย สร้อยข้อมือ ต่างหู หรือจี้ แล้วนำมาประกอบเอง เป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่ได้ทั้งของฝากและความทรงจำกลับบ้านด้วย เป็นประสบการณ์ที่ดีสุดๆ

นอกจากนี้ยังมี โซนให้เรียนรู้ประวัติและวัฒนธรรมของการเพาะเลี้ยงไข่มุกของแบบญี่ปุ่น ตั้งแต่การเลี้ยง การเก็บ และการทำเป็นเครื่องประดับอีกด้วยนะ

แล้วก็ไปกันต่อที่ Miyako Resort Okushima Aqua Forest รีสอร์ตตั้งอยู่บนเกาะโอกุชิมะ ห่างจากตัวเมืองโทบะไม่ไกล ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ประมาณ 15–20 นาที บรรยากาศระหว่างทางคือทะเลใสและมีเกาะเล็กๆ ภายในรีสอร์ตถูกออกแบบให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อนชิลล์ๆ

เราไปต่อโรงแรมที่จะพักคืนที่สองกัน นั่นก็คือ.. Kashikojima Hojoen Hotel  โรงแรมนี้ตั้งเด่นอยู่ริมหาด ซึ่งที่นี่วิวทะเลคือปังมาก! ห้องพักของที่นี่ จะมีห้องพิเศษที่มี อ่างออนเซ็นกลางแจ้งส่วนตัว ให้นอนแช่น้ำอุ่นพร้อมมองวิวพระอาทิตย์ตก ฟีลเหมือนอยู่ในโปสการ์ดจริงๆ มีห้องญี่ปุ่นแบบทาทามิ ที่สามารถนั่งจิบชาและชมวิวทะเลผ่านหน้าต่างด้วยนะ

หนึ่งในประสบการณ์พิเศษของการเข้าพักที่นี่คือการได้ลิ้มรส อาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิ (Kaiseki) ซึ่งเป็นอาหารชุดหรูที่จัดอย่างประณีต ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจากอ่าวอิเสะและชิมะนั่นเองค่ะ


วันที่สาม เช้าๆเราไป จุดชมวิวโยโกยามะ มองลงมาเห็นอ่าว Ago ที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยเต็มไปหมด สวยแบบตาค้างเลยทุกคน

แล้วก็ต่อด้วย ล่องเรือเอสปานา (Espana Cruise) เรือธีมสเปนเก๋ ๆ ล่องในทะเล ฟีลดีจนอยากอยู่ต่อเลยยย

ระหว่างวันก็แวะชม Shima Kanko Hotel โรงแรมสุดหรูที่เคยจัดประชุมผู้นำ G7

แล้วก็ไปสนามกอล์ฟวิวทะเลที่ Kintetsu Kashikojima Country Club ที่นี่คือหนึ่งในสนามกอล์ฟที่สวยที่สุดของแถบ อิเสะ-ชิมะ เลยค่ะ จุดเด่นคือโลเคชันที่โอบล้อมไปด้วยทั้งภูเขาและทะเล ทำให้ทุกหลุมที่ตีมีวิวพาโนรามาให้ชมแบบไม่เบื่อเลย ภายในคลับเฮาส์มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักผ่อน ร้านอาหารที่เสิร์ฟทั้งอาหารท้องถิ่นของมิเอะ เช่น อิเสะอุด้ง หรืออาหารทะเลสด ๆ ไปจนถึงเมนูตะวันตกคุณภาพดี กินไปชมวิวไปคือผ่อนคลายสุด ๆค่ะ

หลังจากนั้นเรานั่ง รถไฟ Shimakaze จากมิเอะไปโอซาก้า ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ บอกเลยว่ารถไฟนี้คือสบายมาก วิวดีสุด ๆ

ภายในของรถไฟสวยมากกก


พอถึงโอซาก้า ก็เช็คอินโรงแรมคืนสุดท้ายที่ Osaka Sheraton Miyako Hotel กันค่ะ ตัวโรงแรมอยู่ติดกับ Kintetsu Osaka Uehommachi Station เดินออกมาก็เชื่อมต่อได้เลย จะไป นัมบะชินไซบาชิอุเมดะหรือแม้กระทั่งนั่ง Kintetsu ไป นารา และ อิเสะ-ชิมะ ก็สะดวกสุดๆ เรียกได้ว่าที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางการเดินทางทั้งในโอซาก้าและเมืองรอบ ๆเลยค่ะ

ไปต่อที่ Harukas 300 จุดชมวิวสูงที่สุดในญี่ปุ่น มองเห็นเมืองแบบ 360 องศาเลยค่ะ ที่นี่อยู่ติดกับ สถานี Tennoji เลยค่ะ เชื่อมต่อทั้งรถไฟ JR, Kintetsu และ Subway ทำให้เดินทางง่ายมาก ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนต่อก็สะดวกสุด ๆ ส่วนชั้นล่างก็มีของให้ช้อปเพียบ ของฝากน่ารัก ๆ เยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นมาสคอตอย่าง “Abenobea”

ต่อด้วย Osaka Aquarium Kaiyukan ก่อนกลับไทยกันค่ะ ที่นี่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลน่ารัก ๆ ไฮไลท์ของที่นี่เลยคือ ปลาฉลามวาฬ เพนกวิน และก็อีกมากมาย เยอะจนเดินไม่ทันเลยค่ะ แนะนำไปช่วงเช้า คนยังไม่เยอะ จะได้ชมสัตว์น้ำแบบเต็มตาเลยค่ะ

บอกเลยว่าเที่ยว Mie-Osaka กับ Kintetsu Group คือคุ้มค่ามากกกก ได้ทั้งเที่ยวศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ชมไข่มุกหายาก กินเมลอนหวาน ๆ ซีฟู้ดสด ๆ ชมวิวทะเล และยังช้อปปิ้งฟินๆ ในโอซาก้าอีก

ใครที่กำลังหาที่เที่ยวญี่ปุ่นแบบครบ ๆ ไม่เหนื่อยจนเกินไป แถมเดินทางสะดวก แนะนำเส้นทาง Mie – Osaka เลยค่าาา รับรองว่าติดใจ~


กดชมโปรแกรมญี่ปุ่น : Jubilee Travel: บริษัททัวร์ชั้นนำ หาทัวร์ทั้งตลาด หาทัวร์เที่ยว ในเว็บเดียว www.jubileetravel.co.th

Content: Kumpa

Picture: Champ Naraksak

รวมทัวร์ญี่ปุ่นทั้งตลาด I ทัวร์ญี่ปุ่น I เที่ยวญี่ปุ่น I รีวิวญี่ปุ่น I ทัวร์ปี2568-2569 I จองกับจูบิลี่ แทรเวิล เว็บเดียวครบทุกโปรแกรม I กดชมโปรแกรมญี่ปุ่น

ติดตาม จูบิลี่ แทรเวิล ได้ที่